สิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่มีพิษร้าย ที่ชายหาดออสเตรเลีย

Blue Ringed Octopus

หมึกบลูริง ที่เกรท แบริเออร์ รีฟ Credit: ullstein bild/ullstein bild via Getty Images

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

มีสิ่งมีชีวิตมากมายที่เป็นอันตรายและอาจทำให้เสียชีวิตได้บนชายหาดที่ออสเตรเลีย ช่วงนี้เป็นฤดูแมงกะพรุนชุกชุม มีรายงานว่าพบแมงกะพรุนอิรุคันจิแถวเมืองแคนส์ พบหมึกบลูริงที่ซิดนีย์และเพิร์ท และพบแมงกะพรุนหัวขวดในที่ที่ไม่เคยพบมาก่อน ผู้เชี่ยวชาญรณรงค์ให้ทราบถึงอันตรายและวิธีลดความเสี่ยงที่จะถูกต่อย


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji) มีขนาดเพียงประมาณเล็บมือ แต่สามารถสร้างความเจ็บปวดได้อย่างสาหัส

รองศาสตราจารย์เจมี ซีมัวร์ (Jamie Seymour) นักวิจัยทางทะเลจากมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก (James Cook University) ทราบเรื่องนี้ดี เพราะเขาเคยถูกแมงกะพรุนอิรุคันจิต่อย
ในเวลาประมาณ 20-30 นาที คุณจะรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนอย่างหนัก ปวดอย่างรุนแรงไปทั่วร่างกาย รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ผิดไปอย่างรุนแรง
"ความเจ็บปวดนี้จะเพิ่มมากขึ้นและจะทุเลาลง แล้วจะเพิ่มระดับขึ้นไปอีก จากนั้นจะทุเลาลงจนคุณคิดว่าจะไม่แย่ลงไปกว่านี้ แต่แล้วความเจ็บปวดจะรุนแรงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง”
แมงกะพรุนโปร่งแสงตัวเล็กๆ นี้มักอยู่บริเวณตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ มันมีหนวดเป็นประกายระยิบระยับ สามารถต่อยได้ประมาณ 150 – 200 ครั้ง

เหยื่อส่วนใหญ่มีอาการเจ็บปวดแสนสาหัส มีอาการทางจิตเล็กน้อยที่เรียกว่าอาการอิรุคันจิเป็นเวลาหลายชั่วโมง ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ อาการปวดในบางรายรุนแรงมากถึงขั้นโคม่า

มีผู้เสียชีวิตจากแมงกะพรุนอิรุคันจิแล้ว 2 รายในออสเตรเลีย แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจมากกว่านี้

แมงกะพรุนอิรุคันจิมากับกระแสน้ำร้อน ซึ่งจะพัดไปทางชายทะเลตอนเหนือของออสเตรเลียในฤดูร้อน เช่นเดียวกับแมงกะพรุนกล่อง (box jellyfish) ซึ่งคร่าชีวิตไปแล้ว 80 รายนับตั้งแต่มีการบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิต

รศ.ซีมัวร์กล่าวว่าการพัดพาของแมงกะพรุนอาจเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

“มีคนถูกต่อยบริเวณเฟรเซอร์ ไอแลนด์ (Fraser Island) เพิ่มขึ้น และหากเราดูตามบันทึก ตัวเลข มีผู้ที่ถูกต่อยเพิ่มขึ้นในบริเวณตอนใต้ใน 15 – 20 ปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลก็ยังไม่ชัดเจนนัก ซึ่งเป็นการยากในการจัดการ สิ่งที่เรารู้คือฤดูกาลแมงกะพรุนนานขึ้นอย่างมาก บริเวณแคนส์ (Cairns) เมื่อทศวรรษ 1960 ฤดูกาลแมงกะพรุนมีประมาณ 1 เดือน หรือ 1 เดือนครึ่ง แต่ตอนนี้ฤดูกาลเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน และพบได้จนถึงเดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม”

ด็อกเตอร์ลี-แอน เกิร์ชวิน (Lee-ann Gershwin) นักวิทยาศาสตร์วิจัยแมงกะพรุนจากมหาวิทยาลัยแทสแมเนีย (University of Tasmania) กล่าวว่าไม่พบคนที่ถูกแมงกะพรุนอิรุคันจิต่อยบริเวณน่านน้ำตอนใต้นานมากแล้ว และการอพยพของแมงกะพรุนนั้นซับซ้อนมาก

“เราไม่พบเหตุแมงกะพรุนอิรุคันจิต่อยที่เฟรเซอร์ ไอแลนด์ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 ไม่พบมาประมาณกว่า 100 ปีแล้ว มีผู้ที่ถูกแมงกะพรุนอิรุคันจิต่อยที่มอร์ทัน เบย์ (Moreton Bay) เมื่อปี 1893 มีผู้ถูกต่อยที่โบทานี เบย์ (Botany Bay) ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อปี 1905 และที่อื่นด้วย”
แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji) ที่มีขนาดเล็กมากจนทำให้ผู้คนที่ว่ายน้ำอยู่สังเกตเห็นมันได้ยาก
แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji) ที่มีขนาดเล็กมากจนทำให้ผู้คนที่ว่ายน้ำอยู่สังเกตเห็นมันได้ยาก Source: AAP, AP / AAP Image/AP Photo/Brian Cassey
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองท่านเห็นพ้องกันว่าควรมีการดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกต่อย

ปัจจุบันมีป้ายเตือนผู้ที่ไปชายหาดถึงอันตรายของการถูกต่อยและรณรงค์ให้ผู้ที่ว่ายน้ำใส่บอดี้สูท (body suits) ในช่วงฤดูร้อน

มีการขึงตาข่ายในชายหาดทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ เป็นวิธีช่วยลดการถูกแมงกะพรุนกล่องต่อยได้ตั้งแต่ทศวรรษ 1980

ดร. เกิร์ชวินเรียกร้องให้นำระบบเตือนภัยล่วงหน้าถึงแมงกะพรุนอิรุคันจิโดยใช้วิธีอิงตามสภาพอากาศกลับมาใช้

รศ.ซีมัวร์แนะนำให้พัฒนาแอปเพื่อเตือนนักว่ายน้ำถึงอันตรายของแมงกะพรุนผ่านคิวอาร์โค้ด วิธีหลีกเลี่ยง และวิธีรักษา
เราควรเตือนให้หลายคนรู้มากกว่านี้ ให้คนตระหนักถึงสัตว์มีพิษที่อยู่รอบตัว และวิธีดูแลตัวเองจากพวกมัน
"สิ่งที่ผมประหลาดใจเสมอคือ มีประมาณ 200 คนที่ถูกแมงกะพรุนอิรุคันจิต่อย รัฐควีนส์แลนด์ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการช่วยเหลือทางการแพทย์ $10 - $15 ล้าน แต่เราไม่มีสิ่งที่เรียกว่า หน่วยรับมือ เหมือนเช่นกับจระเข้”

โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมแห่งรัฐควีนส์แลนด์ (Department of Environment, Science & Innovation) กล่าวกับเอสบีเอส (SBS) ว่าพวกเขาออกคำเตือนเกี่ยวกับแมงกะพรุนอิรุคันจิที่เฟรเซอร์ ไอแลนด์ แต่การจัดการเรื่องการถูกต่อยนั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตความรับผิดชอบของพวกเขา

พวกเขาส่งเรื่องไปยังเซิร์ฟ ไลฟ์ เซฟวิง รัฐควีนส์แลนด์ (Surf Life Saving Queensland) ซึ่งไม่ตอบกลับเรื่องที่เราส่งไป

การท่องเที่ยวรัฐควีนส์แลนด์ (Tourism Queensland) สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland Tourism Industry Council) และหน่วยงานทางทะเลบริเวณเกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef Marine Authority) ก็ไม่รับเรื่องเช่นกัน

ดร. เกิร์ชวินกล่าวว่ารัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังมากกว่านี้

“ประชาชนไปชายหาดเพื่อพักผ่อนหย่อนใจอย่างปลอดภัย พวกเขาต้องไปการเพลิดเพลิน  พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมงกะพรุน ไม่รู้ว่าต้องระวังยังไง พวกเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแมงกะพรุนอิรุคันจิจะอยู่ที่ชายหาดที่พวกเขาว่ายน้ำ”
ดร.เกิร์ชวินยังต้องการสืบสวนเรื่องแมงกะพรุนไฟ (nettle jellyfish) ที่ชุกชุมผิดปกติในบริเวณรอบๆ แคงการู ไอแลนด์ (Kangaroo Island) ที่รัฐเซาท์ ออสเตรเลีย และแมงกะพรุนหัวขวด (bluebottles) ในอ่าวสตอร์ม เบย์ (Storm Bay) ที่รัฐแทสแมเนีย

ยังมีหมึกบลูริง (blue-ringed octopus) ที่พบได้ทั่วไปในออสตรเลียอีกด้วย

พิษของมันมีผลต่อระบบประสาท ซึ่งนักวิจัยบางท่านกล่าวว่ามีฤทธิ์แรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,000 เท่า แต่เนื่องด้วยนิสัยขี้อายของมัน ทำให้การถูกต่อยและอัตราการเสียชีวิตในออสเตรเลียเกิดขึ้นน้อยมาก

คุณเจสัน ทอลลี (Jason Tolley) และลูกๆ ของเขาอาศัยอยู่ที่เพิร์ธ ครั้งหนึ่งหมึกบลูริงคลานออกมาจากเปลือกหอยที่เบไนยาห์ (Benaiah) ลูกชายของเขาเก็บมาขณะดำน้ำตื่น (snorkelling) ที่พอยท์ เพรอน (Point Peron)

เขาเล่าถึงเหตุการณ์นี้

“เปลือกที่เขานำกลับมาดูเหมือนเป็นเปลือกหอยเล็กๆ เท่านั้น และมันก็ค่อยๆ คลานออกมา ลูกสาวของผมกำลังนอนอาบแดดอยู่ และมันคลานไปเกาะที่ผมของเธอ”

เคยพบหมึกบลูริงที่ห้องอาบน้ำสำหรับสุภาพสตรีที่หาดคูจี (Coogee) ที่ซิดนีย์ในวันปีใหม่ คุณเชอร์ลีย์ ทีแนน (Shirley Teenan) ประธานสมาคมว่ายน้ำสตรี (Ladies Swimming Association President)กล่าวว่าเรื่องนี้เตือนถึงอันตรายในทะเลได้อย่างดี

“เราพบมันที่บันได เป็นจุดที่พบได้ง่ายสำหรับคนที่เดินลงสระน้ำ อาจมีคนเหยียบมันได้ง่ายๆ ฉันดีใจมากที่มีคนเห็นมันก่อน เราทุกคนชอบว่ายน้ำ ชอบลงทะเล เราจึงต้องระวังตัว”

วิธีรักษาจากการถูกแมงกะพรุนต่อยนั้น สภาการช่วยชีวิตแห่งออสเตรเลีย (Australian Resuscitation Council) แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชู หากถูกแมงกะพรุนมีพิษต่อย ล้างด้วยน้ำทะเลหรือน้ำร้อนหากไม่ได้ถูกแมงกะพรุนที่มีอันตรายต่อย

สิ่งสำคัญคือควรแจ้งกับยามชายฝั่ง (lifeguard) และไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share