ห่วงฤดูร้อนปีนี้เหตุเด็กจมน้ำอาจพุ่ง

New research reveals one in two children are not learning to swim, with 27% forced out of lessons due to COVID restrictions.

A group of kids are attending a swimming class. They are practicing kicking at the side of the pool. Source: Getty

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

มีคำเตือนพ่อแม่ให้พาเด็กๆ ไปเรียนว่ายน้ำ หลังสถานการณ์โควิดและการล็อกดาวน์ทำให้เด็กจำนวนมากห่างหายจากการฝึกฝนว่ายน้ำ


ผู้คนในออสเตรเลียต่างตั้งตารอฤดูร้อน เพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กลางแจ้งและเล่นน้ำหลังจากผ่านหนึ่งปีของการเข้าๆ ออกๆ จากการล็อกดาวน์

แต่ด้วยการระบาดใหญ่ของโควิดที่ทำให้การเรียนว่ายน้ำถูกระงับนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ตลอดช่วงปี 2021 จึงทำให้มีความเป็นห่วงกันว่าเด็กบางคนจะมีทักษะการว่ายน้ำที่หดหาย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในน้ำได้

ขณะนี้ ได้มีโครงการรณรงค์ใหม่ทั่วประเทศ ที่มุ่งหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมจากการจมน้ำ

ฟังรายงาน
LISTEN TO
Dangerous summer predicted as children miss vital swim lessons image

ห่วงฤดูร้อนปีนี้เหตุเด็กจมน้ำอาจพุ่ง

SBS Thai

19/11/202107:53
สำหรับชาวออสเตรเลียจำนวนมาก การเรียนว่ายน้ำเป็นส่วนสำคัญของชีวิตในวัยเด็ก

แต่เนื่องจากการล็อกดาวน์เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย คนส่วนใหญ่จึงถูกบังคับให้ไม่สามารถไปว่ายน้ำได้ เนื่องจากคำสั่งให้อยู่แต่บ้านเป็นส่วนใหญ่ตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งทำให้เด็กๆ มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เรียนว่ายน้ำ

มีการวิจัยใหม่ชี้ว่าเด็กในออสเตรเลีย 1 ใน 2 คนไม่ได้เรียนว่ายน้ำ โดยร้อยละ 27 ของเด็กๆ เหล่านั้น ไม่สามารถไปเรียนว่ายน้ำได้เนื่องจากข้อจำกัดสถานการณ์โควิด 

โดยนั่นเป็นข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมขึ้นสำหรับรายงานสวิมเซเฟอร์ (SwimSafer Report) ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นห่วงและเตือนว่า การขาดโอกาสเรียนว่ายน้ำและการไม่ค่อยได้ฝึกว่ายน้ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงที่เด็กๆ จะจมน้ำในฤดูร้อนนี้

ลิเซล โจนส์ ทูตสันถวไมตรี ของ และอดีตนักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิก กล่าวว่า สำคัญมากที่เด็ก ๆ จะต้องเรียนว่ายน้ำ

"การว่ายน้ำเป็นทักษะที่ช่วยรักษาชีวิต แต่เด็กออสเตรเลียร้อยละ 54 ไม่ได้เรียนว่ายน้ำเพราะบางครอบครัวไม่มีเงินจ่ายค่าเรียน ฉันรู้ดีจากประสบการณ์ตรงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุการจมน้ำในครอบครัว มันส่งผลกระทบต่อทุกคนในครอบครัว ดังนั้นทักษะนี้จึงสำคัญมาก เพื่อให้เด็กๆ ปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจเมื่ออยู่ในน้ำ" ลีเซล โจนส์ กล่าว
เมื่อเกิดอุบัติเหตุการจมน้ำในครอบครัว มันส่งผลกระทบต่อทุกคนในครอบครัว ดังนั้นทักษะนี้จึงสำคัญมาก
การระบาดใหญ่ของโควิดส่งผลให้เด็กๆ 1 ใน 4 คนไม่ได้ลงสระว่ายน้ำเลยเป็นเวลา 6-12 เดือน โดยร้อยละ 16 ไม่ได้เรียนว่ายน้ำมานานกว่า 1 ปี

สถิติดังกล่าวน่าตกใจ โดยผู้ปกครองมากกว่าครึ่งไม่มั่นใจว่าบุตรหลานของตนจะสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในกรณีฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับน้ำ

คุณลีอา คาร์โมดี เป็นคุณแม่และลูกชายของเธอคือ ธีโอ

เธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เฉียดฉิวในวันคริสต์มาสเกี่ยวกับลูกชายของเธอ

"ธีโออยู่ที่ปลายสระ ห่างจากขอบสระเพียง 5-10 เมตร เขาก็แค่เดินอยู่รอบๆ สระ แล้วเราก็ได้ยินเสียงน้ำสาดกระเซ็นกระเพื่อมใหญ่ ฉันกำลังนั่งอยู่ ฉันจึงผลักเก้าอี้ออกไปทันที แล้ววิ่งรี่ไปหาเขาที่สระ เขาไม่ได้สำลักน้ำ แต่ดูเหมือนเขากำลังตะเกียดตะกายอยู่ในน้ำ เขาพยายามจะพยุงตัวในน้ำ ฉันจึงกระโดดลงไปในสระ แล้วอุ้มเขาขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งเขาก็เสียขวัญอย่างมาก" คุณคาร์โมดี กล่าว

มีโรงเรียนสอนว่ายน้ำกว่า 500 แห่งจะเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดอุปสรรคสำหรับผู้ปกครองโดยการจัดหาเงินทุนเพื่อช่วยให้ครอบครัวสามารถจ่ายค่าเรียนว่ายน้ำในปีหน้าได้

คุณ เบรนดอน ฮอลล์ ทูตสันถวไมตรี ของ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการส่งเสริมให้เด็กๆ คุ้นเคยกับการอยู่ในน้ำมากขึ้น

"การเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังเป็นเด็กเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะมีกีฬาประเภทไหนอีกในชีวิตที่อาจช่วยรักษาชีวิตคุณไว้ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฤดูร้อนใกล้จะมาถึง คุณก็อาจจะไปบ้านเพื่อน พวกเขาอาจมีสระว่ายน้ำ หรือคุณอาจจะไปชายหาดกันทั้งครอบครัว ซึ่งก็รายล้อมไปด้วยน้ำ การว่ายน้ำจึงเป็นกลไกที่มีหน้าที่ด้านความปลอดภัยด้วย" คุณฮอลล์ กล่าว
การเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังเป็นเด็กเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะมีกีฬาประเภทไหนอีกในชีวิตที่อาจช่วยรักษาชีวิตคุณไว้ได้อย่างแท้จริง
เขากล่าวต่อไปว่า หน้าที่ของพ่อแม่คือต้องดูแลลูกๆ ให้ปลอดภัย

"การว่ายน้ำนำความสุขมากมายมาสู่ชีวิตของผม แต่การว่ายน้ำยังมีความสำคัญมากกว่าแค่ความสนุก มันยังเป็นเรื่องของความปลอดภัยด้วย ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของคุณในฐานะผู้ปกครองที่จะต้องดูแลให้ลูกๆ ของคุณปลอดภัยในน้ำ ดังนั้น จึงต้องรีบลงทะเบียนให้พวกเขาได้เรียนว่ายน้ำในตอนนี้เลย" คุณฮอลล์ แนะนำ
อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียมีอัตราการจมน้ำต่ำที่สุดต่อจำนวนประชากร

แต่จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก (James Cook) เกี่ยวกับอุบัติเหตุการจมน้ำกว่า 2,000 กรณีพบว่า เกือบร้อยละ 30 ของผู้ที่จมน้ำมีภูมิหลังเป็นผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน

ด้วยประชากรร้อยละ 29 ของออสเตรเลียเป็นผู้ที่เกิดในต่างประเทศ และร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดมีพ่อหรือแม่ที่เกิดในต่างประเทศ การมีทักษะการว่ายน้ำเหล่านี้อาจเป็นเรื่องของความเป็นความตาย

คุณอเลกซานเดอร์ แกรห์ม ทูตสันถวไมตรีอีกคนหนึ่งของสวิม ออสเตรเลีย (Swim Australia) กล่าวว่า ผู้คนควรลงทุนด้านทักษะการว่ายน้ำมากกว่าที่เคย
สารถึงผู้ปกครองคือ ลงทะเบียนให้เด็กๆ ได้เรียนว่ายน้ำอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อฤดูร้อนมาถึง ทักษะนี้จะสำคัญกว่าที่เคย
"การเรียนว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากในออสเตรเลีย เป็นทักษะการรักษาชีวิตที่คุณนำติดตัวไปได้ทุกที่ทั่วประเทศ ทุกที่ที่คุณไป การเป็นทูตสันถวไมตรีสำหรับ มีความหมายกับผมมาก การว่ายน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญอย่างมากต่อชีวิตของผม และเมื่อรู้ว่ามีเด็กๆ ในประเทศออสเตรเลียที่ยังว่ายน้ำไม่เป็นนั้น เป็นปัญหาใหญ่ สารจากผมถึงผู้ปกครองคือ ลงทะเบียนให้เด็กๆ ได้เรียนว่ายน้ำอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อฤดูร้อนมาถึง ทักษะนี้จะสำคัญกว่าที่เคย" คุณอเลกซานเดอร์ แกรห์ม กล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share