วันนี้ (19 เม.ย.) เป็นวันแรกของการเริ่มต้นการเดินทางไปกลับในเขตเดินทางพิเศษทะเลแทสมัน (Trans-Tasman Travel Bubble) ระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ หลังจากที่นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ ได้เปิดเผยวันเริ่มต้นการเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของวันอาทิตย์ที่ 18 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงเวลลิงตันเป็นต้นไป (21:59 น. ตามเวลาซิดนีย์และเมลเบิร์นในออสเตรเลีย) รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดกักตัวเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางชาวออสเตรเลียเมื่อเดินทางเข้าประเทศ
“เหตุการณ์สำคัญในวันนี้ เป็นสิ่งที่มีแต่ได้กับได้สำหรับชาวออสเตรเลียและชาวนิวซีแลนด์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของเราในขณะที่ทำให้ผู้คนปลอดภัยจากโควิด และประจวบเหมาะกับวันแอนแซกเดย์ (ANZAC Day)” นายสกอตต์ มอรริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าว
ทันทีที่ข้อจำกัดถูกยกเลิก บรรยากาศที่สนามบินนานาชาติซิดนีย์เป็นไปในหลากอารมณ์ ผู้คนต่างแสดงความยินดี บางก็ร้องไห้ด้วยความตื้นตันระหว่างที่กำลังจะได้เดินทางกลับไปพบกับสมาชิกครอบครัวที่ต้องอยู่แยกห่างกันข้ามฟากทะเลจากสถานการณ์โควิดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ การเดินทางระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั้นเป็นไปในทิศทางเดียว ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่เดินทางจากนิวซีแลนด์สามารถเดินทางมายังออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการโควิด แต่ไม่ใช่สำหรับการเดินทางจากออสเตรเลียไปยังนิวซีแลนด์
นอกจากสมาชิกครอบครัวที่ต้องอยู่ห่างไกลจะได้กลับไปอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว การเปิดเส้นทางไปกลับระหว่างทั้งสองประเทศในเขตเดินทางพิเศษนี้ คาดว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์
แต่ก่อนที่คุณจะจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทาง ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องทราบ
ข้อกำหนดในการเดินทางเป็นอย่างไร
แม้การเดินทางข้ามทะเลแทสมันระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในครั้งนี้จะไม่เหมือนกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด แต่ก็มีหลายอย่างที่เข้าใจได้อย่างตรงไปตรงมา
ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปยังนิวซีแลนด์จะต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
- ให้ข้อมูลในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทางการของนิวซีแลนด์ เมื่อคุณเดินทางไปถึงและพำนักอาศัยอยู่ในประเทศ
- สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทางบนเที่ยวบิน
- ดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชันติดตามโควิด ของหน่วยงานสาธารณสุขนิวซีแลนด์
นางอาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ผู้โดยสารจะไม่สามารถเดินทางมายังนิวซีแลนด์ได้ หากมีไข้ขึ้นสูงหรือเป็นหวัด
นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมายังนิวซีแลนด์ไม่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา
นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จะทำการสุ่มตรวจวัดอุณหภูมิผู้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อเป็น "มาตรการเพิ่มเติมในการป้องกัน" ขณะที่ผู้ที่เดินทางมาจากออสเตรเลียจะไม่สัมผัสกับผู้เดินทางจากประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
สายการบินควอนตัส (Qantas) สายการบินเจ็ทสตาร์ (Jetstar) และสารการบินแอร์นิวซีแลนด์ (Air New Zealand) ได้ยืนยันในการเข้าร่วมเป็นสายการบินที่เดินทางในเขตเดินทางพิเศษทะเลแทสมัน ส่วนสายการบินเวอร์จิน (Virgin Airline) ระบุว่าจะยังไม่ทำการบินบนเส้นทางนิวซีแลนด์ทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้
“ระหว่างที่เราให้คำมั่นในการทำการบินบนเส้นทางทะเลแทสมันเมื่อตลาดการเดินทางฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เรายังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับข้อกำหนดของพรมแดนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับกิจการของเรา ขณะที่เราได้มีการผลักดันแผนขยายขอบเขตการดำเนินการหลักบนเส้นทางบินในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเรา” โฆษกของเวอร์จินระบุในแถลงการณ์
โดยสายการบินเวอร์จินเตรียมเปิดสำรองที่นั่งในตารางบินที่จำกัด เส้นทางเมืองควีนส์ทาวน์ (Queenstown) ของนิวซีแลนด์ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.นี้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แนะนำวิธีจองนัดฉีดวัคซีนโคโรนาไวรัสในออสเตรเลีย
หากโควิดระบาดอีก ทราเวลบับเบิลจะปิดหรือไม่
คำตอบก็คือ เป็นไปได้
นางอาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ผู้เดินทางมายังนิวซีแลนด์ควรเตรียมพร้อมกับแผนการเดินทางที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน หากเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโคโรนา
แต่อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดในเขตปกครองเพียงจุดเดียวในออสเตรเลียนั้น มีความเป็นไปได้น้อยที่จะทำให้เขตเดินทางพิเศษนี้ต้องปิดทั้งหมด
“ถึงแม้ว่าเขตเดินทางพิเศษจะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นมาอีกขั้นในการจัดการกับฮอตสปอตในหลายรัฐ แต่มันก็ได้ให้ความยืดหยุ่นกับเราในระดับหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า หากสามารถทำได้อย่างปลอดภัย เราก็มีความสามารถที่จะระงับ หรือยกเลิกเที่ยวบินในรัฐใดรัฐหนึ่ง ขณะที่รัฐอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดก็จะยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ” นางอาร์เดิร์น กล่าว
“นั่นทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการจัดการ แต่เราก็ต้องใช้มันอย่างรอบคอบและระมัดระวัง”
นางอาร์เดิร์น กล่าวอีกว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ "ไม่มุ่งหวัง" ที่จะคิดค่าใช้จ่ายกับผู้เดินทางจากออสเตรเลีย หากต้องเข้ารับการกักตัวเฝ้าระวังอาการเมื่อจำเป็น ในกรณีเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในรัฐหรือมณฑลที่พวกเขาเดินทางมา
ออสเตรเลียจะเปิดทราเวลบับเบิลกับประเทศอื่นหรือไม่
จนถึงขณะนี้ ออสเตรเลียยังไม่ประกาศเปิดเขตเดินทางพิเศษกับประเทศอื่น ๆ แต่ก็มีความเป็นไปได้ในอนาคต
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเดินทางระหว่างประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกนั้นอาจเป็นกลุ่มประเทศถัดไป ขณะที่ทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต่างกำลังมองหาโอกาสในการขยายจำนวนประเทศที่สามารถเดินทางระหว่างกันได้ โดยไม่ต้องกักตัว หากสามารถทำได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียกำลังมีการจัดทำแผนเปิดเขตเดินทางพิเศษกับประเทศสิงคโปร์
นายไมเคิล แม็กคอร์แม็ก (Michael McCormack) รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวกับสำนักข่าวเอบีซีในวันนี้ (19 เม.ย.) ว่ารัฐบาลอาจมีการหารือในการจัดตั้งเขตเดินทางพิเศษเพิ่มเติมในอนาคต ภายในระยะเวลาเวลาอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
ขณะที่อีกหลายประเทศได้ร่างแผนในการเปิดเชตพิเศษสำหรับการเดินทาง แต่สำหรับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั้น ถือว่าเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดเขตเดินทางพิเศษโดยไม่มีการตรวจหาไวรัสโควิด-19 ภาคบังคับ
ในต่างประเทศ ที่ไต้หวันและหมู่เกาะปาเลา ได้มีการเปิดเขตเดินทางพิเศษเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน ขณะที่ประเทศเอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย ได้เป็นกลุ่มประเทศแรกในยุโรปที่เปิดเขตเดินทางพิเศษแบบไม่ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา แต่ก็ได้ปิดตัวลงในเวลาต่อมาเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยังคงยืนยันว่า เขาไม่มีความความรีบเร่งในการยกเลิกมาตรการจำกัดพรมแดนระหว่างประเทศ ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
“การเปิดพรมแดนจะไม่เกิดขึ้นในแบบที่ว่า วันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะเปิดทั้งหมด มันจะเกิดขึ้นอย่างระมัดระวังและรอบคอ ภายใต้มาตรการป้องกันด้านสุขภาพและการแพทย์ เพราะผมจะไม่นำชีวิตความเป็นอยู่ของชาวออสเตรเลียมาเป็นความเสี่ยง” นายมอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวในนครแอดิเลด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 เม.ย.)
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เตือนออสเตรเลียให้เตรียมรับโควิด 1,000 ราย/สัปดาห์หากเปิดพรมแดน
