นายกรัฐมนตรีคนใหม่กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียที่ไม่พอใจต่อการตัดสินใจของธนาคารเวสต์แพคในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น ควรพิจารณาเพื่อที่จะเปลี่ยนธนาคาร
สก็อตต์ มอร์ริสันกล่าวว่า เวสต์แพคจำเป็นจะต้องอธิบายต่อลูกค้าว่าเหตุใดจึงได้เพิ่มอัตราสำหรับเงินกู้เพื่อซื้อบ้านที่ปรับเปลี่ยนได้ (variable home loan rates) ขึ้นอีก 14 จุดพื้นฐาน (basis point)
“ผมคิดว่าผู้คนในออสเตรเลียและลูกค้าของธนาคารฯ กำลังประสบกับความยากลำบาก” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวในนครซิดนีย์วันนี้ (30 ส.ค.)
“ทางธนาคารนั้นจำเป็นต้องหาเหตุผลให้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อผู้คนเริ่มรู้สึกถึงความยากลำบาก ว่าทำไมธนาคารจึงจำเป็นที่จะต้องทำให้มันยิ่งแย่ยิ่งขึ้นไปอีก”
นายมอร์ริสันสนับสนุนให้ลูกค้าที่ไม่พอใจนั้นใช้วิธีตบเท้าเดินออกเพื่อแสดงเจตนารมณ์ โดยเขากล่าวว่าการแข่งขันนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับระบบการธนาคารที่แข็งแกร่งและมีความรับผิดชอบ
Westpac CEO Brian Hartzer says it was a "difficult" decision to raise rates by 0,14%. Source: AAP
“หากคุณไม่พอใจกับสิ่งที่เวสต์แพคทำ ก็ไปที่ธนาคารอื่น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เวสต์แพคประกาศเมื่อวานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้เพื่อซื้อบ้านที่ปรับเปลี่ยนได้จะเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดหาเงินทุนในลักษณะขายส่ง (wholesale funding cost) ของทางธนาคารนั้นได้เพิ่มมากขึ้น
ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (The Reserve Bank of Australia) ได้รักษาระดับอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการ (official cash rate) ไว้ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 1.50 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2016 และได้ส่งสัญญาณว่าจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างคงที่อีกระยะเวลาหนึ่ง
อัตราดอกเบี้ยของธนาคารเวสต์แพคสำหรับเจ้าของที่พักซึ่งอยู่อาศัยเอง (owner-occupier) จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.38 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในกรณีของลูกค้าซึ่งผ่อนชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ในขณะที่อัตราสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.93 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางธนาคารก็ได้กล่าวว่า จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น $35 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับเงินกู้ยืมมูลค่าเฉลี่ย $300,000 ดอลลาร์
รัฐมนตรีเงาด้านการคลัง(ของฝ่ายค้าน) นายคริสโตเฟอร์ โบเวนก็ได้ออกเรียกร้องให้ธนาคารเวสต์แพคอธิบายเหตุผลของการตัดสินใจดังกล่าวให้กับลูกค้า
“ชาวออสเตรเลียนั้นประสบกับความยากลำบากอยู่แล้วเกี่ยวกับความกดดันเรื่องค่าครองชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และค่าใช้จ่ายสำหรับการประกันสุขภาพกับบริษัทเอกชน และเรื่องนี้ก็ไม่ได้ช่วยเลย” เขากล่าวกับเอเอพีเมื่อวานนี้
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอสไทย
Settlement Guide: จะขอกู้เงินจากสถาบันการเงินในออสเตรเลียอย่างไร
