หลังเหตุการณ์ไล่แทงผู้คนที่ถนนเบิร์ก สตรีท ในนครเมลเบิร์น ผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบปรามการก่อการร้ายผู้หนึ่ง แนะนำว่าออสเตรเลียควรมีหน่วยเฉพาะกิจที่พร้อมปฏิบัติการปราบปรามการก่อการร้ายอย่างฉับพลันดังเช่นที่มีในประเทศอังกฤษ พร้อมให้หน่วยดังกล่าวมีอำนาจเฝ้าติดตามสอดส่องบุคคลที่อยู่ในรายชื่อผู้ที่มีความเสี่ยงก่อเหตุก่อการร้ายด้วย
ดร.อัลเลน ออร์ ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการจับตัวประกันที่ร้านกาแฟ ลินดต์ ซิดนีย์ กล่าวว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษดังกล่าว ควรได้รับอนุญาตให้มีอาวุธแสนยานุภาพสูง และสามารถขอใช้งานเครื่องเฮลิคอปเตอร์ได้
“ในสหราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่แถวหน้าเหล่านี้จะไม่เกี่ยวข้องกับอย่างอื่นเลย แต่ดูแลเรื่องการปราบปรามการก่อการร้ายเพียงอย่างเดียว ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายต่างๆ ได้ภายใน 2 นาที” ดร.ออร์ บอกกับสื่อแฟร์แฟกซ์ ในวันจันทร์ (12 พฤศจิกายน)
ทางการออสเตรเลียกำลังเรียกร้องให้ชุมชนอิสลามช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีก่อการร้ายอีก หลังนายฮัสซาน คาลิฟ เชียร์ อาลี ซึ่งเป็นที่รู้จักขององค์กรด้านข่าวกรอง ได้ขับรถบรรทุกถังแก๊สพุ่งชนถนนเบิร์ก สตรีท ในเมลเบิร์นเมื่อวันศุกร์ ก่อนจะใช้มีดไล่แทงนายซิสโต มาลาสพินา เจ้าของร้านอาหารคนดังเสียชีวิต และมีพลเมืองดีอีกสองคนได้รับบาดเจ็บ
Shire Ali was known to federal police and had his passport cancelled in 2015. Source: Supplied
นายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวว่า ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ จะไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นฉับพลันได้ หากไม่ได้รับการแจ้งเบาะแส หรือแจ้งเหตุการณ์จากประชาชนทั่วไป
ในวันนี้ (วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน) นายดัตตัน กล่าวว่า เขาพร้อมจะเปิดรับข้อเสนอทุกอย่างที่จะช่วยปรับปรุงแนวทางที่ออสเตรเลียรับมือกับการก่อการร้าย
“ผมพร้อมจะพิจารณาทุกอย่าง และเราจะยังคงปรับปรุงแนวทางการทำงานของเราอยู่เสมอ”นายดัตตัน บอกกับ เซเวน เนตเวิร์ก
นายเชียร์ อาลี นั้นเป็นบุคคลที่ตำรวจสหพันธรัฐของออสเตรเลียมีข้อมูล และเขาเคยถูกยกเลิกหนังสือเดินทางเมื่อปี ค.ศ.2015 เนื่องจากทางการออสเตรเลียเกรงว่าชายผู้ที่เกิดในประเทศโซมาเลียผู้นี้วางแผนจะเดินทางไปยังประเทศซีเรีย เพื่อร่วมสู้รบกับกลุ่มที่เรียกตนเองว่ารัฐอิสลามหรือไอเอส
Australian Minister for Home Affairs Peter Dutton speaks with the media following the incident. Source: AAP
“เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่เราจะต้องได้ข้อมูลจากอิหม่าม จากคู่ครอง สมาชิกครอบครัว สมาชิกชุมชน เจ้าหน้าที่เทศบาล หรือบุคคลต่างๆ ที่อาจมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลเหล่านั้น ที่อาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ซึ่งพวกเขาคิดว่าบุคคลเหล่านั้นอาจถูกครอบงำด้วยแนวคิดรุนแรงสุดโต่ง”นายดัตตัน กล่าว
นายดัตตัน กล่าวว่า โครงการต่างๆ ที่กระตุ้นพลังชุมชนซึ่งรัฐบาลส่งเสริมนั้น ได้ช่วยให้รัฐบาลได้ข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งได้ช่วยยับยั้งการก่อการร้ายเหตุการณ์อื่นๆ แต่ยังคงมีช่องว่างด้านข้อมูลอยู่
เขากล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีบุคคลอีกหลายร้อยคนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตาดู และกำลังมีการหารือกันในหมู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะปรับปรุงการเฝ้าติดตามสอดส่องบุคคลเหล่านั้นได้อย่างไร หลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เมลเบิร์นเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
Police in Victoria weren't aware the man who launched Friday's attack had mental health issues. (AAP) Source: AAP
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ขอให้ผู้นำศาสนาอิสลามประณามแนวคิดรุนแรงสุดโต่งที่เกิดขึ้นในชุมชนอิสลาม
แต่นายมอร์ริสันก็ถูกผู้นำมุสลิมตำหนิว่าพูดจาให้เกิดความแตกแยกในสังคม เนื่องจากกล่าวโทษชุมชุมมุสลิมโดยรวม จากการกระทำของบุคคลเพียงคนเดียว
“ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ และเกิดโศกนาฏกรรมของชาติขึ้น เป็นช่วงเวลาชาวออสเตรเลียไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดและมีพื้นเพอย่างไร ควรได้รับสารให้สามัคคีกันและยืนหยัดร่วมกันเพื่อต่อต้านแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่งและต่อต้านความรุนแรงในในทุกรูปแบบ แต่การที่ได้เห็นผู้นำประเทศให้เหตุการณ์นี้เพื่อหาประโยชน์ทางการเมือง จึงเป็นสิ่งน่าผิดหวังอย่างยิ่ง” สภาอิหม่ามแห่งชาติของออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์
นายเชียร์ อาลี ถูกยิงที่อกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต่อมาเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เรียนภาษาไทยให้มากกว่าแค่ภาษา
