หน่วยงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรียเปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 23 ราย ขณะที่วันนี้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 113 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ยอดผู้เสียชีวิตในวันนี้ ทำให้รัฐวิกตอเรียเข้าสู่วันที่มีการสูญเสียมากที่สุดเป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเริ่มต้น หลังเมื่อวานนี้พบยอดผู้เสียชีวิตในรัฐวิกตอเรีย 24 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน 485 ราย
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 22 จาก 23 รายในวันนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก้อนการติดเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุ
ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ นับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความหวังว่าอัตราการติดเชื้อรายวันจะลดลง หลังผ่านจุดสูงสุดของการระบาดระลอก 2 เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
“ผมคิดว่าชาวรัฐวิกตอเรียสามารถมองในแง่ดีในส่วนนี้ จากข้อเท็จจริงที่ว่า ตัวเลขต่าง ๆ กำลังเริ่มลดลง” นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังคงแสดงอาการในทั่วรัฐวิกตอเรียนั้นได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบคนทำงานด้านสุขภาพที่ติดเชื้อและแสดงอาการ 391 ราย และอีก 48 รายนั้น เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการภายในสถานดูแลผู้พิการ
นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาล่าสุดในรัฐวิกตอเรียนั้น ‘มีความเลวร้าย’ เขากล่าวว่า ขณะที่ตัวเลขต่าง ๆ ไม่ควรเป็นเช่นนั้น แต่รัฐวิกตอเรียยังสามารถพลิกสถานการณ์ ในการต่อสู้กับการระบาดระลอกสองได้
“เราจะยังคงทุ่มเทการสนับสนุนรัฐวิกตอเรีย เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถทำให้การแพร่ระบาดอยู่ในการควบคุม และทำให้ชีวิตของผู้คนในเมลเบิร์นและทั่วรัฐวิกตอเรียกลับเข้าสู่สภาวะปกติเท่าที่จะสามารถทำได้ ในโลกที่มีความปลอดภัยจากเชื้อโควิด” นายมอร์ริสันกล่าว
“มาตรการจำกัดห้ามควรที่จะบังคับใช้ตราบใดที่ยังคงมีความจำเป็น และควรมีไว้ในกรณีที่มีความจำเป็นจริง ๆ บนพื้นฐานของคำแนะนำด้านสุขภาพ” 
ส่วนมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียนั้น กำลังอยู่ระหว่างการร่วมวงเจรจากับพรรคฝ่ายค้าน ในส่วนของร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐวิกตอเรียออกไป เพื่อเปิดทางให้สามารถคงไว้ซึ่งมาตรการจำกัดห้ามการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้
Prime Minister Scott Morrison Source: AAP
นายแอนดรูส์ กำลังผลักดันให้ประกาศภาวะฉุกเฉินได้รับการขยายออกไปเป็นระยะเวลาอีก 12 เดือน แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกฝ่ายค้านของรัฐบาลรัฐวิกตอเรียอีกอย่างน้อย 4 เสียง ก่อนที่จะสามารถประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายได้
นางฟิโอนา แพทเทน (Fiona Patten) วุฒิสมาชิกฝ่ายค้านคนสำคัญ ต้องการให้การประกาศภาวะฉุกเฉินได้รับการขยายเวลาออกไปไม่เกิน 6 เดือน รวมถึงมีการตั้งคณะกรรมการระหว่างพรรคเพื่อกำกับดูแล
“ร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปอีก 12 เดือน จะไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภา พวกเขาจะต้องยื่นร่างกฎหมายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพื่อให้การขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะกลับมายื่นร่างกฎหมายดังกล่าวอีกครั้ง” นางแพทเทนกล่าว
“พวกเขาจะต้องเจรจากันใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะให้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสภาสูง”
ขณะที่นายแอนดรูส์ ย้ำว่า จุดประสงค์ของการขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการขยายเวลามาตการจำกัดระดับ 4 ออกไปอีกปี และมาตรการต่าง ๆ จะบังคับใช้ ‘ตราบใดที่มีความจำเป็น’
“เราไม่สามารถจะเปลี่ยนจากระดับ 4 สู่มาตรการระดับ 0 ที่ไม่มีข้อบังคับใด ๆ เลยได้” นายแอนดรูส์กล่าว
ขณะที่ในวันนี้ ตำรวจรัฐวิกตอเรียกำลังเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อล้มเลิกการชุมนุมรายวัน เพื่อต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ในนครเมลเบิร์น
โดยเมื่อคืนวานนี้ (26 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาย 4 คน บริเวณพื้นที่ George Andrews Reserve ในเมืองแดนดีนอง (Dandenong) ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ประกาศโทษปรับ 11 หมาย โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมประชาชน 2 ราย และออกโทษปรับ 11 หมาย ในพื้นที่เดียวกันนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ตามมาด้วยการจับกุมประชาชนอีก 1 ราย และออกโทษปรับอีก 11 หมาย เมื่อวันอังคาร (25 ส.ค.)
“ผมมีความกังวล และเราจะดำเนินการต่อไป พวกเขาอาจไม่มีความสุขในช่วงการล็อกดาวน์ ไม่มีใครมีความสุขหรอก” นายเชน แพตทัน (Shane Patton) ผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรียกล่าว
ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.
ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น
ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น
รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้ ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
อย่าเพาะเมล็ดพืชปริศนาที่ได้รับทางไปรษณีย์
